วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ภูมิสัณฐานของเกาะเมืองกรุงศรีอยุธยา


          กรุงศรีอยุธยามีแม่น้ำใหญ่ 3 สายคือ แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำลพบุรี ไหลมาบรรจบและโอบล้อมไว้ทุกด้าน ทำให้มีเมืองมีสภาพคล้ายกะกลางน้ำ ซึ่งอุดมสมบูรณ์ด้วยน้ำท่า และดินตะกอนทับถมจากฤดูน้ำหลากกลายเป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำที่เหมาะสมกับการเพาะปลูก มีเส้นทางน้ำสายต่างๆ เชื่อมต่อถึงกัน ทำให้กรุงศรีอยุธยากลายเป็นเมืองท่า และชุมทางการค้าที่สำคัญ แม้จะมีแม่น้ำสามสายล้อมรอบเป็นปราการอย่างดีทางธรรมชาติแล้ว ในการรบของกรุงศรีอยุธยานิยมใช้วิธีการตั้งรับอยู่ในพระนคร จึงการสร้างกำแพงเมืองและป้อมไว้ด้วยอีกชั้นหนึ่ง (บทโทรทัศน์รายการจดหมายเหตุกรุงศรีฯ ตอน ภูมิสัณฐานของเกาะเมืองกรุงศรีอยุธยา)
            ตามคำให้การขุนหลวงวัดประดู่ทรงธรรมกล่าวถึงสัณฐานของกรุงศรีอยุธยาเอาไว้ว่า “จะกล่าวถึงภูมิลำเนาของกรุงเทพมหานคร บวรทวาระวดีศรีอยุธยาราชธานีพระนครตั้งอยู่บนเกาะหนองโสนในประเทศสยาม มีแม่น้ำล้อมรอบเกาะเมือง เกาะนั้นมีสัณฐานคล้ายสำเภานาวา
            มีอีกคนหนึ่งที่มองสัณฐานของเกาะกรุงศรีฯ ต่างออกไปจากนี้นั้นก็คือ ลาลูแบร์ ในจดหมายเหตุของลาลูแบร์ เรื่อง ราชอาณาจักรสยาม ก็ได้กล่าวถึงสัณฐานของเกาะเมืองไว้ว่า มีรูปร่างคล้ายๆ ถุงย่าม ปากถุงอยู่ทางทิศตะวันตก

เอนเยลเบิร์ต แกมป์เฟอร์ นายแพทย์ชาวเยอรมัน (สมัยพระเพทราชา) มองว่า เกาะที่กรุงตั้งอยู่นี้มีสัณฐานดั่งฝ่าเท้า ซึ่งสันเท้าหันไปทางทิศตะวันตก ไม่ว่าจะเหมือนหรือรูปร่างสัณฐานเป็นเช่นไรก็ตาม ราชอาณาจักรแห่งนี้ก็มีอายุยืนยาวถึง 417 ปี
ภาพกรุงศรีอยุธยา จากเมืองโบราณ

กรุงเทพมหานครปัจจุบัน ดูจากการวางตัวของป้อมรอบกรุงฯ จะเห็นว่าเหมือนหอยสังข์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น