เรียนรู้ประวัติศาสตร์การบินของไทยผ่านพิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศและการบินแห่งชาติไทย
๙ เมษายนของทุกปีเป็นวันที่ลูกทัพฟ้าให้ความสำคัญ
เพราะเป็นวันคล้ายวันสถาปนากองทัพอากาศ และเรียกวันนี้ว่าเป็น “วันกองทัพอากาศไทย”
ด้วยความสำคัญนี้ทางคณะครูบางส่วนของทางโรงเรียนเทพศิรินทร์ร่มเกล้าได้มีโอกาสเข้าร่วมแสดงความยินดี
และเยี่ยมชมสถานที่ที่แสดงความเป็นมาอันทรงเกียรติที่กองทัพอากาศมีคุณูปการต่อประเทศไทย
พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศและการบินแห่งชาติไทย ตั้งอยู่บนถนนพหลโยธิน แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยพื้นที่จัดแสดงแบ่งออกเป็น
๔ ส่วน ๓ ส่วนแรกจัดแสดงภายในอาคารที่ดัดแปลงจากโรงจอดเก็บเครื่องบิน
อีกส่วนเป็นพื้นที่กลางแจ้งจัดแสดงเครื่องบินและอาวุธยุทโธปกรณ์
ส่วนแรกจัดแสดงประวัติความเป็นมาของการบินแห่งชาติก่อนที่จะพัฒนามาเป็นกองทัพอากาศไทยในปัจจุบัน ที่น่าตื้นตันใจคือจัดแสดงโต๊ะทรงงานของในหลวงรัชกาลที่ ๑๐
และเครื่องบินลำเลียงแบบที่ ๑๑ ที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเคยบังคับบินมาแล้วจัดแสดงร่วมด้วย
เมื่อเดินผ่านเข้าไปในอาคารจะพบเครื่องบินสองลำที่ถูกทำขึ้นใหม่ ซึ่งจำลองมาจากเครื่องบินนิเออปอรต์ปิกชั้นเดียว และเครื่องบินเบรเกต์ ๓
ความมหัศจรรย์ของเครื่องบินทั้งสองลำที่นอกจากจะเป็นเครื่องบินสองแบบแรกของไทยแล้วคือเป็นเครื่องบินที่บุด้วยผ้าใบ
ไม่น่าเชื่อว่าผ้าใบจะนำมาเป็นวัสดุทำเครื่องบินได้
และคลาสสิกอีกอย่างคือเครื่องบินทั้งสองมีใบพัดที่ทำจากไม้นับได้ว่าเป็นจ้าวเวหายุคแรกๆ
ของโลกการบินจริงๆ ยังจัดแสดงรูปภาพของบุคคลสำคัญที่สร้างคุณประโยชน์ต่อวงการการบินของไทยอย่างมากมาย
ทั้งคนไทยคนแรกที่ทำการบินจากรุงเทพไปอินเดีย เป็นต้น
มีการจัดแสดงเครื่องมือเครื่องใช้ในการสร้างเครื่องบิน
ความรู้ใหม่ที่ไม่ทราบอย่างเช่น
การประสานเนื้อไม้หรือชิ้นส่วนที่ทำเครื่องบินจะใช้ยางจากเปลือกของต้นบงมาเป็นตัวเชื่อม
รวมไปถึงเครื่องแบบของทหารอากาศยุคแรกที่ยังอยู่ในสังกัดของกองทัพบกว่าเป็นอย่างไร
จากที่กล่าวมายังจัดแสดงเครื่องบินหลายลำ
หลายรุ่น แต่รุ่นที่จะเป็นที่สนใจมากที่สุดคือเครื่องบินขับไล่แบบที่ ๑๗ (เอฟ-๘๖ เอฟ)
ซึ่งกองทัพได้รับมาจากสหรัฐอเมริกา ถ้าจำได้ในละครเรื่อง คุณชายรณพีร์
พระเอกของเรื่องก็ขับลำนี้ด้วย โก้มากๆ ขับเครื่องบินขับไล่ สักเกตดีๆ
จะเห็นว่าเครื่องบินจะมีรูปงูเห่า หรือสัตว์อื่นติดอยู่
เพื่อที่จะให้ทราบว่าเป็นเครื่องบินที่สังกัดอยู่ที่กองบินจังหวัดไหน เช่น
งูเห่าสังกัดกองบินตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ รูปเสือ สังกัดกองบิน จังหวัดนครราชสีมา
เป็นต้น
ส่วนที่สองจัดแสดงเครื่องบินรบสมัยใหม่เป็นไฮไลค์ในจุดนี้หนีไม่พ้นเครื่องบินขับไล่เอฟ-๑๖ของสหรัฐอเมริกา และเครื่องบินขับไล่กริฟเพนท์จากประเทศสวีเดน
จุดนี้ผู้เข้าชมสามารถยืนถ่ายรูปได้ ท่าไหนก็ได้เจ้าหน้าที่ช่วยได้
พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศและการบินแห่งชาติไทย เปิดให้เข้าชมทุกวันอังคารถึงอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา
๐๘.๐๐-๑๖.๐๐น. หยุดวันจันทร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
ที่ประทับใจคือวิทยากรใจดี เป็นกันเอง
ให้ความรู้ได้ตลอดเวลารับรองไปแล้วไม่เสียเที่ยว
ภายในพิพิธภัณฑ์
ปลอกกระสุนปืน วิทยากรเล่าว่าหากทหารสิ้นชีพในการรบเพื่อเป็นเกียรติแด่ทหารจะนำอัฐิบางส่วนมาใส่ในปลอกกระสุนนำไปบรรจุอนุสาวรีย์สำคัญๆ ที่เกี่ยวกับนายทหารผู้นั้น
เครื่องแต่งกายทหารอากาศเมื่อยังสังกัดอยู่กับทหารบก
เปลือกบงใช้เชื่อมต่อส่วนประกอบเครื่องบินแบบเก่า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น