ชีวิตรันทดของผู้ลี้ภัยซีเรีย
เรื่องราวน่ารันทดใจของกลุ่มผู้อพยพลี้ภัยชาวซีเรียที่ต้องเจอกับอุปสรรคนานากว่าจะมีที่ยืนในยุโรปได้ไม่ใช่เรื่องง่าย
Illham alarabi เป็นหนึ่งผู้หญิงที่ไม่ย่อท้อต่อทุกอย่างที่เข้ามาในชีวิตของคนเป็นแม่ เธอโดดเดี่ยวจากการอยู่ร่วมกับลูกชายที่่ปวดฟันจากการที่ฟันงอกขึ้นมาใหม่ อาบน้ำลูกเล็กที่่พึ่งเกิด และตอนนี้ที่จะเตรียมอาหารที่อยู่บนเตาให้พร้อมแดก
การเดินทาง ๑,๕๐๐ ไมล์จากหมู่บ้าน Deirez-Zar ที่ถูกทิ้งระเบิดในซีเรียมายังกรีซเป็นเรื่องที่ยากลำบาก แต่ Illham ได้ปลอบโยนครอบครัวของเธอด้วยความเชื่อมั่นที่ว่าพวกเขามุ่งหน้ามาเพื่อหาในสิ่งที่ดีกว่า แม้แต่ชีวิตในค่ายลี้ัภัยที่เธอตั้งครรภ์ลูกคนที่ห้าในนั้นกว่าแปดเดือน โอกาสที่จะสร้างเพื่อนในชุมชน และหาสิ่งที่ดีกว่ายากมาก อาหารก็ไม่ดี สุขาต้องเดินฝ่าหิมะไปเข้าส้วม
แต่หลังจากนั้นสามปีที่เธอยังมองโลกในแง่ดีหลังจากที่ลี้ภัยเข้าไปในตุรกีก่อนที่จะมายังกรีซที่สุดเธอก็ยอมแพ้เดือนมีนาคม เธอทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ในห้องพักแห่งหนึ่งที่อยู่ตอนเหนือของกรีซ เธอมองดูลูกชายคนสุดท้องนอนอยู่บนเตียงที่ติดกับผนัง ที่ลูกคนอื่นไม่นอน
ลูกชายวัยเจ็ดขวบไม่เคยเดินไปโรงเรียน เขาบอกว่า เขาต้องการเป็นครูเมื่อเขาโตขึ้น แต่เขาพยายามที่จะเขียนคำภาษาอาหรับง่ายๆ เช่น BaBa ในภาษาอาหรับที่แปลว่าพ่อ ผู้เป็นพ่อกล่าวว่า "ถ้าเรานำเด็กเหล่านี้ไปโรงเรียน เด็กเหล่านี้คงรู้ภาษากรีซไปนานแล้ว"
เช่นเดียวกับผู้ลี้ภัยชาวซีเรียอีกหลายหมื่นคนที่ข้ามน้ำข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ช่วง สองสามปีที่ผ่านมา Minbel Alsaleh ย้ายมายุโรป เป็นแผนหนึ่งองอียูที่จะกระจายผู้ี้ภัยไปยังส่วนต่างๆ ของทวีปเพื่อลดภาระประเทศชั้นนำที่คอยช่วยเหลือผู้ลี้ภัย จะเกิดวิกฤตผู้ลี้ภัยขึ้นในยุโรป แต่ประตูที่ยุโรปเปิดอยู่กำลังจะปิดลง ผู้อพยพกว่า ๒๗,๐๐๐ คนที่ย้ายถิ่นฐานเข้ามาในกรีซ ซึ่งการประมวลผลปี ๒๕๕๘ เมื่อมีการใช้ข้อตกลงครั้งแรกไม่น่าจะเป็นไปได้ส่วนที่เหลือจะย้ายเข้ามาในกันยายนปี ๒๕๖๐ ขณะที่การเลือกตั้งกำลังจะมีขึ้นในฝรั่งเศสและเยอรมันซึ่งทั้งสองประเทศเป็นประเทศแกนนำที่คอยช่วยเหลือผู้ลี้ัย แต่กระนั้นมีผู้สมัครท้าชิงออกมาหาเสียงต่อต้านผู้อพยพย้ายถื่น
ชาวซีเรียหลายคนที่อพยพไปยังประเทศอื่นมีทีท่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากการสำรวจในเดือนมีนาคมมีผู้อพยพมากกว่า ๕ ล้านคนในประเทศตุรกี เลบานอน จอร์แดน และอิยิปต์ และในยุโรปเพิ่มขึ้นเป็น ๘๘๔,๔๖๑ คนด้วยการรบอันหนักหน่วงและใช้อาวุธชีวภาพในจังหวัด Idlib เมือวันที่ ๔ เมษาที่ผ่านมา และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
แต่จากข้อตกลงที่อียูทำกับตุรกีทำให้ผู้ลี้ภัยเข้าไปในยุโรปลดลง แต่ข้อตกลงดังกล่าวมีความเสี่ยงพอๆกับความตึงเครียดที่เกิดขึ้นจากการปราบปรามผู้ต่อต้านประธานาธิบดี Recep Tayyi
ในที่สุด Illham แลละ Minhel ได้รับการตอบรับจากหน่วยบริการจากขั้นตอนการสมัครที่สับสน แม้ว่าทั้งสองจะมีครอบครัวที่เยอรมัน ซึ่งเป็นรายชื่อประเทศที่ทั้งสองต้องการเข้าไปอยู่ แต่เดือนกุมภาพันธ์พวกเขาทั้งคู่ถูกจับให้ไปอยู่ในลิทัวเนีย เป็นการจัดโดยพลการ เธอทั้งสองไปพอใจในสิ่งที่รับ "เป็นประเทศที่มีประชากรน้อยกว่าอเลปโปครึ่งหนึ่ง" "มีประธานาธิบดีเป็นผู้หญิงด้วยหรือไม่"
ในความเป็นจริงสิ่งที่พวกเธอกังวลคือเรื่องปัญหาปากท้องแลละลิทัวเนียเองก็มีอัตราการว่างงานสูงมาก แต่ในเวลาเดียวกันพวกเธอก็รู้สึกโล่งใจที่การเดินทางของพวกเธอในการค้นหาความปลอดภัยและความมั่นคงในที่สุดก็มาถึงจุดสิ้นสุด "ฉันได้มาอยู่ในลิทัวเนียอาจจะไม่ดีนัก แต่อย่างน้อยก็เป็นการก้าวต่อไปข้างหน้า" Minhel กล่าวอีกว่า "และคงไม่มีสิ่งใดสำคัญกว่าที่ลูกๆ จะได้ไปโรงเรียน
ภาพจาก http://www.tnews.co.th/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น