“ชีวิตและหัวใจไม่สำคัญเท่าการค้ำจุนบ้านเมือง”
เป็นคำที่สะท้อนความนึกคิดอันลึกซึ้งในใจของ
แม้นเมือง หญิงสาวราชธิดาเจ้าเมืองเชียงเงินที่พร้อมสละได้ทั้งชีวิตและความรัก
ต่อคำสัตย์สาบานที่แลกด้วย “ความตาย”
จดใส่สมุด
กว่าจะมาเป็นละครรากนครา
สยามเฮ้าส์
ถนนพระสุเมรุ กรุงเทพฯ
วิทยากร
ปิยะพร ศักดิ์เกษม และ น้ำฝน พัชรินทร์
บางส่วนจากงานเสวนาในวันนี้
สนุกมาก ได้ความรู้กับมาอีกหลายอย่างที่ไม่คิดว่าจะได้รู้
ทำไมถึงเป็นนักเขียน ?
ปิยะพร : ชอบอ่านหนังสือ
มีคุณพ่อเป็นแรงบันดาลใจ ไม่จำเป็นต้องเรียนอักษรศาสตร์ ผู้เขียนเรียนคุรุศาสตร์
จุฬาฯ มีงานที่มั่นคงแล้วจึงมาเป็นนักเขียนอายุใกล้ ๓๐ ช่วงนี้เขียนนิยายน้อยลง แต่เขียนบทความมากขึ้น
และนำไปสร้างละครแล้วหลายสิบเรื่อง ต้องมีการรีเสริชข้อมูลก่อนรวมเวลาเป็นปีกว่าจะได้ถ่ายทำ
กล่าวถึงเมืองสมมติสามเมืองหลัก คือ เมืองมัณฑ์ เมืองเชียงพระคำ เมืองเชียงเงิน
เรื่องรากนครา ลงสกุลไทย
เป็นอย่างไร ?
ปิยะพร : ลงเขียนเป็นตอนๆ ลงในสกุลไทย
มีการขอเปลี่ยนตอนจบเมื่อเรื่องถูกตีพิมพ์วางขาย (แฟนนิยายอินมาก) ตอนเป็นละครก็ยังมีคนอย่างให้เปลี่ยนตอนจบอยู่
(หัวเราะ) เพราะเรื่องถูกสร้างไว้แล้วตั้งใจให้เป็นเช่นนี้ เมืองสมมติที่สร้างขึ้นเชียงใหม่เป็นเมืองหลัก
เชียงพระเงินอยู่ทางเฉียงตะวันออก
เชียงคำทางทิศคะวันตกเฉียงเหนือ ทางเครื่องแต่งกาย สมมติขึ้นมา
เมืองมัณฑ์คือพม่า เชียงพระคำออกทางเชียงใหม่ เชียงเงินออกทางเชียงตุง
สีเสื้อสวยงามมากตามทัศนะผู้เขียน เป็นสิ่งที่ผู้เขียนชื่นชมมากๆ
นิยายมักใช้ตัวละครชายเดินเรื่อง
ทำไมรากนคราใช้ผู้หญิงเป็นตัวเดินเรื่อง ?
ปิยะพร : ช่วงเขียนมีกระแสเรื่องพระสุพรรณกัลยา มองว่า
คนที่เป็นมหาราชยังมีสตรีเพศที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จนั้นด้วย นอกจากกษัตริย์
ในเรื่องมีเจ้านางต้องจากบ้านเมืองไปทำหน้าในต่างเมือง ตามท้องเรื่องรากนครานั้นเริ่มสมัยรัชกาลที่
๕ พระชันษา ๓๑ ปี ครองราชย์มา ๑๕ ปี มีความเหมาะสมในเรื่องจริง ถ้าเทียบกับนวนิยายคือสามปีจากในเรื่องรากนครา
มีการส่งเจ้าดารารัศมีมากรุงเทพฯ จึงเหมาะสมที่จะนำมาทำนิยาย ถือเป็นเสาเรื่องใหญ่ที่นำมาทำนิยายเป็นเสาหลัก
เรื่องของเจ้านางเป็นเปลือกของเสา
ลงในสกุลไทยเป็นตอนๆ หนึ่งปีจึงรวมเล่ม
นวนิยายเข้ารอบซีไรท์ ?
ปิยะพร : ไม่คิดว่าจะเข้ารอบ มันคนละที่นั่งกัน
มันเป็นนิยายรักทั่วไป ไม่เชื่อว่าจะผ่านเข้าไปได้
แยกให้ออกระหว่างเรื่องจริงกับนิยาย เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในหมู่นักวิชาการ
เรื่องราวต่าง ๆ ตรงนี้ถูกนำไปใส่ในสะพานแสงคำ (เป็นนวนิยายตอนต่อของรากนครา)
รายละเอียดบางอย่างนักวิชาการมองว่าผิด เช่น เจ้าน้อยศุภวงศ์ไปเรียนสิงคโปร์
รู้จักบริษัทบริติชบอร์เนียว ไม่มีเจ้าทางเหนือไปเรียนสิงคโปร์ เลยสมมติให้เจ้าน้อยเป็นบุตรบุญธรรมเจ้าคุณในบางกอกเพื่อไปเรียนสิงคโปร์
ฉากในละครที่พูดถึง ?
ปิยะพร : ฉากเชิดชักหุ่นกระดาษกษัตริย์เมืองมัณฑ์
แสดงให้เห็นว่าพระนางปัทมสุดายิ่งใหญ่อยู่เหนือคนทุกคนแม้แต่กษัตริย์
หรือเอาเท้าเหยียบมือมิ่งหล้าแสดงความเหนือกว่าทุกคนซึ่งไม่มีในนิยายเพิ่มมาตอนถ่ายทำ
(มิ่งหล้าไม่รู้ตรงจุดนี้จึงกล้าต่อกรกับเจ้านางปัทมสุดา)
เมืองมัณฑ์ทำไมพูดภาษากลาง ?
น้ำฝน : ทุกเมืองพูดภาษาเหนือ
แต่ต้องทำให้ต่างจากเมืองตรงจุดอื่นที่พูดภาษาเหนือ
การคัดเลือกนักแสดงผู้เขียนมีส่วนร่วมไหม
?
ปิยะพร : ไม่มี แต่รับรู้การคัดเลือกนักแสดง เพราะรายละเอียดของการสร้างละครมากกว่าการเขียนนิยาย
ทางผู้สร้างจะแจ้งให้ผู้เขียนทราบตลอด
พระนางศุภยรัตกับเจ้านางหลวงปัทมสุดา
?
ปิยะพร : เมืองในเรื่องเป็นเมืองสมมติหากเป็นเรื่องจริง
คงไม่สามารถสร้างเรื่องราวทารุณที่มิ่งหล้าเจอได้
เพราะถ้าต้องติดภาพของบุคคลจริงไป ซึ่งในประวัติศาสตร์ไม่มีอยู่จริง
การเพิ่มลดตัวละครจากที่มีในนิยาย ?
ปิยะพร : อ้างถึง แดง ศัลยา
การเติมตัวละครเพื่อให้พูดแทนตัวละครหลัก แต่ในเวอร์ชั่นนี้
ข่ายคำเดินทางไปเมืองมัณฑ์ด้วยพูดให้มิ่งหล้าบอกความคิดในใจตัวละครหลัก เวอร์ชั่นนี้เพิ่มตัวละครเข้าทำให้รู้ว่าเจ้าน้อยรักแม้นเมืองจริงๆ
เติมละอองคำเข้าไป ทำให้รู้ว่าเจ้าน้อยรักเดียวใจเดียว
ละอองคำจะแต่งงานกับจักรคำน้องเจ้าน้อย มีผลต่อนิยายตอนต่อ "สะพานแสงคำ"
การ "ทำความสะอาด"
จากการถวายตัว ?
ปิยะพร : ยาคุมไม่มีทำอย่างไร เจ้านางหลวงไม่ต้องการให้ใครท้อง
ใครไปถวายทำการรับใช้เจ้าหลวงต้องถูกทำความสะอาด
แต่มิ่งหล้าท้าทายอำนาจเจ้านางหลวง หลอกเจ้านางหลวงจึงนำไปสู่จุดตกต่ำของตน
ฉากที่ประทับใจ ?
น้ำฝน : ฉากที่เกือบตาย อันนี้รอลุ้นในละคร
ใช้เวลาถ่ายทำอย่างเดียว แปดเดือน ไม่รวมหาข้อมูล
ความสนุกเข้มข้นสามารถติดตามในละคร
สัปดาห์นี้ออกอากาศติดต่อกัน ห้าวันเต็ม เริ่มศุกร์ถึงวันอังคารเสนอเป็นตอนจบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น